อากาศร้อนจัด ตลาดเครื่องปรับอากาศคึกคัก จีเอฟเค ประเมินตลาดรวมปีนี้ ทะลุ 6.2 แสนยูนิต ชี้ ภาวะต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้น ส่งผลการแข่งขันด้านราคาลดลง

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์: นางสาวสิริวรรณ โหลสกุล ผู้จัดการส่วนวิจัยแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน (Home Appliance Division) บริษัท จีเอฟเค มาร์เก็ตติ้ง เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทวิจัยและสำรวจตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เปิดเผยว่า ตลาดรวมเครื่องปรับอากาศในไทยปีที่ผ่านมา จากการสำรวจยอดค้าปลีกจากร้านค้า พบว่าตลาดรวมอยู่ที่ 6 แสนยูนิต แบ่งเป็นตลาดคอนซูเมอร์ 3.6 แสนยูนิต ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 13,000 ล้านบาท

สำหรับตลาดเครื่องปรับอากาศสามารถแบ่งตามประเภทได้คือ แบบติดผนัง ซึ่งมีสัดส่วนตลาดใหญ่ที่สุด คิดเป็น 95% ของตลาดรวม ตามด้วยแบบติดเพดาน 4% และแบบตั้งพื้น 1%

ทั้งนี้จากการที่ภาวะอากาศร้อนจัดในปัจจุบัน บริษัทคาดการณ์ว่าปีนี้ ตลาดรวมเครื่องปรับอากาศจะขยายตัวประมาณ 1-2% ทั้งในแง่ของจำนวนยูนิต และในแง่ของมูลค่าตลาด นอกจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดแล้ว ปัจจัยที่จะส่งผลให้ตลาดโดยรวมโต อัตราการครอบครองของผู้บริโภคคนไทยยังมีน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ โดยจากตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ทำการสำรวจในปี 2547 มีเพียง 11% ของทั้งหมด หรือโดยเฉลี่ยแล้ว ทุก 100 ครัวเรือน จะมีเครื่องปรับอากาศแค่ 11 ครัวเรือนเท่านั้น

"ตัวเลขตรงนี้เมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านประเภทอื่นๆ อย่าง ทีวีและตู้เย็น จะสามารถเปรียบเทียบให้เห็นได้ถึงความแตกต่างอย่างมาก เพราะสินค้าทั้ง 2 ชนิดนี้ มีอัตราส่วนเกินกว่า 80% ขึ้นไปที่ทุกบ้านจะมีใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ขณะที่เครื่องปรับอากาศอัตราการครอบครองยังถือว่าต่ำ ดังนั้นการเติบโตจึงมีอีกมาก และตัวแปรสำคัญของตลาดปีนี้อยู่ที่อากาศ ซึ่งต่างจากปีที่แล้วที่ฤดูฝนมาเร็ว ทำให้พัดลมขายได้ดีกว่า" นางสาวสิริวรรณ กล่าว

นางสาวสิริวรรณ กล่าวต่อถึงการแข่งขันในปีนี้ว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะชูเรื่องของนวัตกรรมมาเป็นจุดเด่นในการแข่งขัน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถแข่งขันเฉพาะด้านราคาได้ ดังนั้นการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ ให้กับสินค้า จึงเป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค เช่น การเพิ่มระบบฟอกอากาศที่มาพร้อมกับเครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดค่าไฟได้มากขึ้น เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกันแนวโน้มความนิยมในด้านการดูแลสุขภาพและห่วงใยสภาพแวดล้อม

“หลายๆ ค่ายมีการเปิดตัวด้วยการชูจุดเด่นเรื่องของระบบฟอกอากาศ หรือระบบต่างๆ ที่เกี่ยวโยงไปถึงเรื่องของสุขภาพ ซึ่งเป็นการขยายฐานลูกค้ามาสู่กลุ่มกลางมากขึ้น จากเดิมที่ตลาดจะมุ่งไปที่กลุ่มพรีเมียมเป็นหลัก ขณะเดียวกัน สิ่งที่ทำให้ตลาดขยายวงกว้างขึ้นก็คือ แคมเปญส่งเสริมการขาย เช่น ดอกเบี้ย 0% ที่ไม่ใช่แค่ 3 เดือนเท่านั้น แต่ขยายไปมากกว่า 3 เดือน จึงเป็นส่วนเสริมที่ทำให้ตลาดขยายตัว” นางสาวสิริวรรณ กล่าว

แหล่งข่าว: http://www.bangkokbiznews.com/2007/04/09/WW14_1401_news.php?newsid=63290

Poted Date 2007-05-17